Skip to main content
Trump back in business as inauguration approaches

ทรัมป์กำลังกลับมาในขณะที่การเข้ารับตำแหน่งใกล้เข้ามา

ศ., 11/29/2024 - 13:48

ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบดอนัลด์ ทรัมป์ แต่ไม่มีใครปฏิเสธได้ถึงพลังของเขาในการขับเคลื่อนตลาด — แม้กระทั่งก่อนที่เขาจะก้าวกลับเข้าไปในทำเนียบขาว และในขณะนี้ เกือบหนึ่งเดือนเต็มหลังจากที่ทรัมป์เอาชนะทุกความคาดหมาย โดยที่ได้รับทั้งคะแนนเสียงประชาชน และคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เราสามารถเริ่มประเมินได้แล้วว่า การดำรงตำแหน่งของทรัมป์ อาจมีผลกระทบต่อตราสารทุนสหรัฐฯ อย่างไรบ้าง ด้วยบุคลิกที่โดดเด่น ทรัมป์มักใช้ถ้อยคำที่รุนแรงเกี่ยวกับจีน และให้การสนับสนุนต่อระบบทุนนิยมแบบเสรีอย่างเหนียวแน่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบที่หลากหลายต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่วันหลังจากชัยชนะของพรรครีพับลิกัน ทั้งดัชนี S&P 500 และ Nasdaq 100 ได้พุ่งขึ้นในทันที แต่ก็ปรับตัวกลับมาอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม หลังจากช่วงของการเติบโตอย่างมั่นคง ดัชนีที่สำคัญทั้งสองได้เพิ่มขึ้นประมาณ 5% และ 4% ตามลำดับ นับตั้งแต่คืนเลือกตั้ง และในปัจจุบันอยู่ใกล้ระดับสูงสุดใหม่ที่ 5,998.74 และ 20,744.49 (28/11)

อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่สงครามการค้ามีโอกาสเกิดขึ้น และมีความขัดแย้งในภูมิภาคหลายแห่งที่ทวีความรุนแรงขึ้น นักวิเคราะห์ต่างตั้งคำถามว่า ทรัมป์จะสามารถควบคุมตลาดหมีให้จำศีลต่อไปในช่วงฤดูหนาวนี้ได้หรือไม่ แต่ภาพรวมทางเศรษฐกิจมหภาคส่วนใหญ่ยังคงเป็นบวก และสภาพแวดล้อมของอัตราดอกเบี้ยต่ำ น่าจะช่วยสนับสนุนสินทรัพย์เสี่ยง เช่น ตราสารทุน แล้วผลกระทบในระยะยาวของทำเนียบขาวของทรัมป์ ที่มีต่อหุ้นสหรัฐฯ น่าจะเป็นอย่างไร และปัจจัยใดบ้าง ที่เราควรต้องจับตามองในปี 2025?

การกระทำไม่เหมือนคำพูด

ตามที่ทั่วโลกได้เห็นในการดำรงตำแหน่งสมัยแรกของเขา ดอนัลด์ ทรัมป์มักพูดสิ่งที่เขาคิด ซึ่งบางครั้งอาจนำไปสู่ความคิดเห็นหรือการข่มขู่ที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาลงมือทำจริงๆ มักมีความระมัดระวังและรอบคอบมากกว่า ดังนั้น แม้ว่าจะมีการพูดถึงการขึ้นภาษีสินค้าจีนในอัตรา 100% หรือสูงกว่า แต่เราควรมองเรื่องนี้ว่า เป็นกลยุทธ์เพื่อสร้างความได้เปรียบในการเจรจากับสี จิ้นผิง และหลีกเลี่ยงการยกระดับความตึงเครียดในไต้หวัน ด้วยการกำหนดเส้นแดงที่ชัดเจน

ในฐานะนักธุรกิจ ทรัมป์ทราบดีว่า การผลิตในจีนมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเขาจะพยายามทำให้การคว่ำบาตรใดๆ สร้างความเสียหายต่อสหรัฐฯ น้อยที่สุด สิ่งนี้ยิ่งมีความเป็นไปได้มากขึ้น หลังจากการแต่งตั้งอีลอน มัสก์ ซึ่งธุรกิจ Tesla ของเขามีการร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับผู้ผลิตแบตเตอรี่จีน Contemporary Amperex Technology Company (CATL) การปรับภาษีเพิ่ม 10% กับสินค้าจีนดูเหมือนจะสมเหตุสมผล และเป็นการสร้างฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเจรจากับรัฐบาลจีน อย่างไรก็ตาม ผู้คนต่างสงสัยเกี่ยวกับการประกาศเรียกเก็บภาษี 25% กับสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งมีมูลค่ารวม 475 พันล้านดอลลาร์ และ 418 พันล้านดอลลาร์ต่อปี อุตสาหกรรมยานยนต์และการเกษตร จะได้รับผลกระทบมากที่สุด จากการดำเนินการนี้ แต่ผลกระทบโดยรวมต่อดัชนีตัวหลักในสหรัฐฯ ไม่น่าจะมีนัยสำคัญ

เพียงหนึ่งคนเท่านั้น

แม้ว่าสื่อมักจะสร้างกระแสเกินจริง โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับทรัมป์ เราต้องจำไว้ว่า ผลกระทบของเขามีขอบเขตจำกัด มีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายในระดับเศรษฐกิจมหภาคและภูมิรัฐศาสตร์ ที่จะส่งผลเทียบเท่าหรืออาจมากกว่าต่อหุ้นสหรัฐฯ ในปีหน้า ตัวอย่างเช่น ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง อาจนำไปสู่สงครามในวงที่กว้างขึ้น ซึ่งจะดันราคาน้ำมันให้พุ่งสูงขึ้น มากกว่าการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของทรัมป์ต่อแคนาดามาก แม้ว่าจะเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่สงครามสามารถเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจได้เช่นกัน โดยเฉพาะกับผู้รับเหมาด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศจำนวนมากของสหรัฐฯ เช่น Raytheon, Boeing และ Lockheed Martin ซึ่งน่าจะได้รับประโยชน์จากความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้น

แม้ว่านโยบายของทรัมป์สามารถกำหนดผลลัพธ์ในที่นี้ได้ แต่อิทธิพลส่วนใหญ่กลับอยู่ที่เยรูซาเลมและเตหะราน สำหรับเรื่องใกล้บ้าน ผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ได้ส่งผลบวกอย่างมากต่อตราสารทุน อย่างไรก็ตาม มีความหวังว่าเฟดจะดำเนินการลดอัตราดอกเบี้ยต่อไป และกระตุ้นสินทรัพย์เสี่ยงให้มากกว่าแต่ก่อน ก่อนสิ้นปี 2024 อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเงินเฟ้อเมื่อวานนี้ (27/11) ที่ 2.6% ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ได้กลายเป็นอุปสรรคสำคัญ แม้ว่าเฟดจะต้องการดำเนินนโยบายแบบผ่อนคลายต่อไป อย่างน้อยการเพิ่มแรงกดดันด้านราคา ก็จะบังคับให้เฟดใช้แนวทางรอดูไปก่อน ซึ่งอาจทำให้หุ้นตกลงชั่วคราว แต่ความไม่แน่นอนจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้น จะส่งผลกระทบต่อดัชนีสหรัฐฯ ในระยะยาวอย่างแน่นอน

เทรด CFD ของหุ้นและอื่นๆ ด้วย Libertex

ด้วย Libertex คุณสามารถเข้าถึงตราสารทุนสหรัฐฯ ผ่านหุ้น ดัชนี และ ETF ผ่าน CFD ได้ และเนื่องจาก Libertex มีให้บริการทั้งโพซิชั่นซื้อและขาย แบบมีหรือไม่มีเลเวอเรจ คุณจึงมั่นใจได้ว่า คุณจะได้พบกับสินทรัพย์อ้างอิงและทิศทางที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ คุณสามารถเทรด CFD ใน S&P 500, Nasdaq 100, หรือ Dow Jones Institutional Average ได้โดยตรงภายในแอปที่ได้รับรางวัลของ Libertex หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติม หรือสร้างบัญชีเป็นของคุณเอง ให้ไปที่ www.libertex.org วันนี้!

สัมผัสกับความน่าตื่นเต้นของการเทรด!

ลงทะเบียนเปิดบัญชีเดโมกับ Libertex และมาเรียนรู้วิธีการเทรด