Skip to main content
Fed sharpens scissors for September slash

เฟดเตรียมพร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน

ศ., 08/16/2024 - 14:47

สำหรับชาวอเมริกัน — และจริงๆ แล้ว รวมไปถึงในประเทศจำนวนมากในแถบตะวันตก — วันที่อัตราดอกเบี้ยเกือบเป็นศูนย์ ดูเป็นความทรงจำอันเลือนลาง ช่วงหลังการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบก้าวกระโดด และในขณะนี้ เรากำลังมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า 5% มาเกือบ 2 ปีเต็มแล้ว แม้ว่าเราจะเคยเห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในสภาวะดอกเบี้ยสูงในอดีตแล้ว แต่สภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกลับทำให้ดัชนีสองตัวของสหรัฐฯ ทั้ง S&P 500 และ Nasdaq 100 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 50% นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2022 ซึ่งขัดกับความเข้าใจของเรา เงินเฟ้อส่วนใหญ่อยู่ในระดับที่ควบคุมได้แล้ว แม้แต่ตลาดงานก็ยังสามารถทนต่อต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน สิ่งต่างๆ กำลังเปลี่ยนแปลง และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยกำลังใกล้เข้ามาแล้ว จริงๆ แล้วมีหลายคนคาดการณ์ว่า พาวเวลล์น่าจะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วตั้งแต่ต้นเดือนนี้ หากเขาทราบว่า รายงานเศรษฐกิจที่สำคัญ 2 อย่าง คือ CPI และการจ้างงานนอกภาคเกษตร จะออกมาเป็นอย่างไร แล้วอะไรเป็นแรงกระตุ้นให้เฟดหันมาดำเนินนโยบายการเงินที่เป็นมิตรมากยิ่งขึ้น? และอะไรที่น่าจะส่งผลกระทบต่อตราสารทุนในสหรัฐฯ และที่อื่นๆ? ลองมาหาคำตอบต่อคำถามเหล่านี้ และเรื่องอื่นๆ ได้ ในบทความนี้

รอคอยและติดตาม

สิ่งที่เกิดขึ้นกับเฟดตลอดปีที่ผ่านมาและก่อนหน้านั้นคือ พวกเขากำลังใช้แนวทาง "รอและดู" ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจมหภาคในภาพกว้าง — โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เงินเฟ้อและตลาดแรงงาน — หลังจากนั้นพวกเขาจึงจะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในตอนนี้ดูเหมือนว่า พวกเขาได้ดูจนเพียงพอแล้ว สัญญาณแรกมาพร้อมกับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า มีการสร้างงานเพียง 114,000 ตำแหน่งในเดือนกรกฎาคม ในขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 4.3% จาก 4.1% ในเดือนมิถุนายน ตัวเลขจากรายงานการจ้างงานที่อ่อนแอกว่าที่คาด ได้ส่งผลทำให้เกิดการเทขายอย่างหนักใน Wall Street โดยดัชนี S&P 500 และ Nasdaq 100 ปรับตัวลดลงเฉลี่ย 8% ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคมถึง 4 สิงหาคม ดัชนีส่วนใหญ่ได้ฟื้นตัวกลับมาจากความคาดหวังว่า จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็วๆ นี้

อะไรที่อาจถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เกิดขึ้นในวันที่ 14 สิงหาคม เมื่อรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคแสดงให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อปีต่อปีลดลงเหลือ 2.9% นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ตัวชี้วัดนี้ได้ลดลงต่ำกว่า 3% นับตั้งแต่ปี 2021 ตามที่ Scott Anderson จาก BMO Capital ได้กล่าวไว้ว่า "รายงานนี้แสดงให้เห็นถึงความคืบหน้า ในการบรรลุเป้าหมายด้านเงินเฟ้อของเฟด" และถึงแม้ว่าเขาจะเห็นด้วยว่า "ไม่มีสิ่งใดในรายงานฉบับนี้ ที่จะทำให้เฟดไม่ลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนกันยายน" แต่เขาก็รู้สึกว่า "ความหวังของตลาดที่จะได้เห็นการลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่ ยังดูเหมือนเป็นเรื่องที่ห่างไกล" ด้วยเหตุนี้ เราจึงควรคาดหวังว่า อัตราดอกเบี้ยจะลดลง 0.25% แทนที่จะเป็น 0.50% อย่างไรก็ตาม นี่ถือเป็นการก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง

แรงหนุนหุ้นใช่หรือไม่?

เมื่อดูแบบผิวเผิน ก็ดูเหมือนว่า รายงาน CPI ที่เป็นบวกและตัวเลขการจ้างงานที่ไม่น่าประทับใจ ได้ทำให้ตลาดเชื่อว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จวบจนถึงวันนี้ ดัชนีทั้งสองตัวได้มีการปรับตัวขึ้นติดต่อกันแล้ว 4 ครั้ง ซึ่งถือเป็น 5 วันที่ดีที่สุดของ Nasdaq และ S&P 500 นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2023 ดัชนีเหล่านี้ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.09% และ 3.86% ตามลำดับ ในช่วงห้าวันที่ผ่านมา และเป็นการฟื้นตัวกลับมาจากการปรับตัวลดลงในช่วงต้นเดือนสิงหาคม เห็นได้ชัดว่า การปรับตัวขึ้นนี้ ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากการที่ตลาดรับรู้ถึง การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนกันยายน

คำถามในตอนนี้คือ ตลาดได้รับรู้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วมากเพียงใด และพาวเวลล์จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจริงๆ เท่าใด หาก FOMC ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 bps ในการประชุมเดือนกันยายน นี่อาจทำให้หุ้นปรับตัวสูงขึ้นได้ แต่ก็อาจไม่เป็นเช่นนั้น หากตลาดคาดหวังไว้อยู่แล้ว หากเราเห็นการปรับลดลง 25 bps ตลาดอาจเกิดการเทขายได้ ในปัจจุบันเทรดเดอร์พันธบัตรชี้ให้เห็นว่า มีโอกาส 47% ที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะลดลงไปสู่ช่วงเป้าหมาย 4.50%-4.75% ในการประชุมวันที่ 18 ธันวาคม ซึ่งหมายความว่า จะมีการปรับลด 0.25% เป็นจำนวนสามครั้ง จากระดับปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ความเห็นของตลาดเริ่มแรกในช่วงต้นปีคือ เราจะเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง "สี่หรือห้า" ครั้งภายในสิ้นปี 2024 ในตอนนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเช่นนั้น แต่ตลาดก็ยังไม่ได้ปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีของ "อารมณ์ตลาด" ที่ดีบน Wall Street 

เทรด CFD ของหุ้นกับ Libertex

Libertex ให้บริการ CFD ของหลายกลุ่มสินทรัพย์อ้างอิง เริ่มตั้งแต่ฟอเร็กซ์ โลหะและสกุลเงินดิจิทัล ไปจนถึง ETF ดัชนี และหุ้น ที่ Libertex คุณจะสามารถเทรดดัชนีตัวสำคัญของสหรัฐฯ Nasdaq 100, S&P 500 และ Dow Jones Industrial Average รวมไปถึง ETF ในประเทศต่างๆ และหุ้นรายตัวอีกมากมาย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ให้ไปที่ www.libertex.org/signup วันนี้ แล้วสร้างบัญชีเป็นของคุณเอง หากคุณยังไม่มีบัญชี

สัมผัสกับความน่าตื่นเต้นของการเทรด!

ลงทะเบียนเปิดบัญชีเดโมกับ Libertex และมาเรียนรู้วิธีการเทรด