หลังจากที่ห่างหายไปซักพักหนึ่ง คริปโตได้กลับมาอยู่ในจุดสนใจอีกครั้ง ภายหลังจากการที่สินทรัพย์ดิจิทัลยอดนิยมหลายตัวได้ปรับตัวขึ้นเกือบ 100% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลก นับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นฤดูหนาวที่ยาวนานของคริปโตในช่วงปลายปี 2021 Bitcoin ได้สูญเสียมูลค่าไปกว่า 70% หลังจากนั้นก็ได้ปรับตัวขึ้นมาชดเชยส่วนที่สูญเสียไป และปรับตัวขึ้นอีกในช่วงระหว่างปี 2023 ถึงไตรมาสแรกของปี 2024 ขณะนี้กำลังอยู่ในจุดที่อาจดูเหมือนว่า เป็นจุดที่ดีมากๆ ที่ $57,274 (07/08)
อย่างไรก็ตาม ทุกสิ่งไม่ได้ดีอย่างที่อาจเห็นในตอนแรก Bitcoin ปรับตัวลง 7.4% ในเวลาเพียงแค่ 5 วัน และถึงแม้จะมีการปรับตัวขึ้นถึง 13% นับตั้งแต่วันจันทร์ก็ตาม! ความเสียหายนี้เกิดขึ้นมากกว่า กับสกุลเงินสัญญาสมาร์ต Ethereum ซึ่งได้สูญเสียมูลค่าไปถึง 17.35% ในช่วงเวลาเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะนับรวมการพุ่งขึ้นเป็นเลขสองหลักในช่วงต้นสัปดาห์นี้ แล้วอะไรคือเหตุผลสำหรับการปรับตัวลงอย่างกะทันหันนี้ และทำไม Ethereum ถึงได้รับผลกระทบมากกว่า?
ความไม่แน่นอนทางการเมืองมีอยู่ทั่วทุกหนแห่ง
ตลาดสกุลเงินดิจิทัลมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างตึงกับทางการเมืองมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม คริปโตได้เดินหน้ามาไกล ในแง่การกำกับดูแลตามกฎระเบียบและกระแสในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จริงๆ แล้ว ก้าวที่สำคัญสำหรับกลุ่มสินทรัพย์นี้ คือการที่ SEC ได้อนุมัติสปอต Bitcoin ETF ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม มีหลายคนที่อยากให้มีการควบคุมที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการขุด และตลาดซื้อขายคริปโต
ในขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐกำลังใกล้เข้ามา นักลงทุนคริปโตจำนวนมาก ต่างพยายามที่จะประเมินจุดยืนของผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ซึ่งก็คือ Kamala Harris และผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นรองประธานาธิบดีของเธออย่าง Tim Walz Darren Parkin บรรณาธิการของ Digital Commonwealth ได้เขียนไว้ในโพสต์ X ล่าสุดว่า: "Tim Walz ยังไม่ได้แสดงจุดยืนที่แน่นอนของเขา เกี่ยวกับ Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลโดยทั่วไป" อย่างไรก็ตาม เขาเป็นผู้ที่เคร่งครัดในเรื่องกฎระเบียบ แล้วแต่ว่าคุณจะตีความอย่างไร" เราต่างทราบกันดี ถึงจุดยืนที่เป็นมิตรกับสกุลเงินดิจิทัลของอดีตประธานาธิบดี Trump และผู้ที่ถูกเสนอชื่อให้เป็นรองประธานาธิบดีอย่าง JD Vance Gemini ซึ่งเป็นกระดานแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ได้ระบุไว้ในผลการสำรวจ State of Crypto ปี 2024 ว่า ในปัจจุบันชาวอเมริกัน 21% เป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัล และ 73% ของจำนวนนี้ มีแผนที่จะพิจารณาจุดยืนของผู้สมัครรับเลือกตั้งเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล เมื่อพวกเขาลงคะแนนเสียงเลือกประธานาธิบดีคนต่อไป
การปรับตัวลงของสกุลเงินดิจิทัลเมื่อเร็วๆ นี้อาจมองได้ว่า เป็นผลโดยตรงจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ Kamala Harris ซึ่งตัวเลขจากโพลสำรวจของเธอดีขึ้นอย่างมาก ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา หากเราได้ยินแถลงการณ์ที่แสดงจุดยืนที่เราอยากได้ยิน จากฝั่งของพรรคเดโมแครต สิ่งนี้อาจพลิกสถานการณ์ได้อย่างแน่นอน
การทำงานมาก่อนกระแส
ภูมิทัศน์ของสินทรัพย์ดิจิทัลมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก นับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ ในขณะที่เทคโนโลยีบล็อกเชนแสดงให้เห็นถึงแอปพลิเคชันที่นำมาใช้ได้จริง เริ่มตั้งแต่ DeFi และ NFT ไปจนถึงสัญญาสมาร์ต และเทคโนโลยี dApp นักลงทุนต่างให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเหรียญหรือโทเคนสามารถทำอะไรได้บ้าง และสิ่งนี้ได้ส่งผลต่อมูลค่าของเหรียญอย่างยิ่ง จริงๆ แล้ว เหตุผลอย่างหนึ่งที่ทำให้ Ethereum มีราคาที่ย่ำแย่ ทั้งๆ ที่เป็นหนึ่งในคริปโตดั้งเดิมก็คือ การที่มีความสามารถในการใช้งานด้อยกว่าเหรียญน้องใหม่อย่างเช่น Solana และ Cardano
ตัวอย่างเช่น Ethereum ปรับตัวลงไปเกือบ 30% นับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม และสามารถฟื้นคืนมาได้เพียง 3.5% จากจุดต่ำสุดในช่วงนี้ ในทางกลับกัน Cardano ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนได้เร็วกว่าและง่ายกว่า ปรับตัวลดลงเพียง 15% ในช่วงเวลาเดียวกัน และฟื้นตัวได้เร็วกว่า และมีความเคลื่อนไหวมากกว่าจากจุดต่ำสุดที่ผ่านมา และเราได้เห็นการปรับตัวที่น่าประทับใจยิ่งกว่าจาก Solana ซึ่งเป็นอีกเหรียญหนึ่งที่ถูกขนานนามว่าเป็น "ผู้ฆ่า Ethereum" SOL ปรับตัวลดลงเพียง 11% ในสัปดาห์ต้นเดือนเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม และเพิ่มขึ้น +10% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา เหรียญนี้จึงเป็นหนึ่งในคริปโตเพียงไม่กี่ตัว ที่ปรับตัวขึ้นสุทธิบนกราฟ 30 วัน
ความเป็นจริงในปัจจุบันก็คือ นักลงทุนเหรียญทางเลือกมีความรอบรู้มากกว่าเดิมมาก และเหรียญสัญญาสมาร์ตที่อุปโลกขึ้นเอง ที่สามารถจัดการธุรกรรมได้เพียง 15 รายการต่อวินาทีนั้นไม่เพียงพอ สิ่งหนึ่งที่อาจช่วย Ethereum ไว้ได้ ก็คือการกระจายศูนย์ที่มากกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยที่การเปลี่ยนไปใช้กลไก Proof-of-Work จะทำให้ได้ความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างมากตามที่กล่าวอ้างในที่สุด
เทรดคริปโตและ CFD ตัวอื่นๆ ด้วย Libertex
Libertex มี CFD ของกลุ่มสินทรัพย์ต่างๆ เริ่มตั้งแต่ฟอเร็กซ์ ETF และตราสารทุน ไปจนถึงสินค้าโภคภัณฑ์ ออปชัน และคริปโต นอกจากเหรียญที่เป็นจุดเริ่มต้น เช่น BTC และ ETH แล้ว Libertex ยังมี CFD ของเหรียญทางเลือกตัวใหม่ๆ อย่างเช่น SOL, AVAX, Cardano, และ Grayscale Bitcoin Trust อีกด้วย หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติม หรือสร้างบัญชีของคุณเอง ให้ไปที่ www.libertex.org/signup วันนี้
