Skip to main content
Datos del mercado de valores. Descubre qué es la bolsa de valores.
Datos del mercado de valores. Descubre qué es la bolsa de valores.

ตลาดหุ้นคืออะไร? คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น

หากคุณกำลังจะเข้าสู่โลกของการลงทุน คุณควรรู้ว่าการซื้อขายหุ้นส่วนมากจะดำเนินการในตลาดหุ้น แต่... ตลาดหุ้นคืออะไร? ในโลกนี้มีตลาดหุ้นมากกว่าหนึ่งแห่งใช่หรือไม่? บทความนี้จะอธิบายข้อมูลทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องรู้เพื่อให้การลงทุนในอนาคตของคุณมีความปลอดภัยและประสบความสำเร็จ 

ตลาดหุ้นคืออะไร?

ก่อนอื่นเราจะดูกันที่คำนิยาม ตลาดหุ้นหมายถึงสถาบัน สมาคม หรือองค์กรที่สามารถเทรดหุ้น พันธบัตร หรือหลักทรัพย์อื่นๆ ในตลาดหุ้น ผู้ซื้อและผู้ขายจะทำการซื้อขายระหว่างชั่วโมงที่กำหนดและวันทำการ การซื้อขายเหล่านี้จะกำกับดูแลโดยหน่วยงาน ซึ่งความปลอดภัยของผู้ใช้จะได้รับการตรวจสอบผ่านการควบคุมของบริษัทและโบรกเกอร์ที่เกี่ยวข้องในธุรกรรม บริษัทที่เทรดในตลาดการเงินเหล่านี้เรียกว่าบริษัทจดทะเบียน

หลักทรัพย์หรือหุ้นที่ไม่อยู่ในตลาดที่กำหนดหรือตลาดหุ้นจะถูกขาย Over-The-Counter (OTC) โดยทั่วไปจะผ่านบริษัทขนาดเล็ก ซึ่งแสดงถึงความเสี่ยงที่มากขึ้น เนื่องจากไม่ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการเทรดในตลาดหุ้น 

แรกเริ่มเดิมที หุ้นที่ใหญ่ที่สุดและเป็นหุ้นชั้น 1 ได้รับการเทรดในตลาด Over-the-Counter หลังจากนั้นได้ย้ายไปที่ Big Board หรือรู้จักกันดีในฐานะตลาดหุ้นนิวยอร์ก 

การทำงานของตลาดหุ้นเป็นอย่างไร?

ตลาดหุ้น

เมื่อธุรกิจหรือบริษัทเริ่มแสดงให้เห็นถึงการซื้อและขายหุ้น นั่นหมายถึงเจ้าของหลักต้องการที่จะขายมันในอนาคตเพื่อแลกกับผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่กว่า บางครั้งเป้าหมายอาจเป็นการจ่ายค่าเรียนลูก หรือเพื่อซื้อบ้านใหม่ ซึ่งสามารถเป็นไปได้ทั้งหมด สิ่งสำคัญคือเจ้าของของหุ้นเหล่านี้มักได้ผู้ซื้อจากตลาดรอง ซึ่งทำได้โดยปราศจากความไม่สะดวกใดๆ... และนั่นคือจุดที่ตลาดหุ้นเข้ามามีบทบาท
หากไม่มีตลาดหุ้น เจ้าของจะต้องหาคนในครอบครัว เพื่อน คนใกล้ชิด คู่หู หรือสมาชิกของชุมชน เพื่อหวังว่าจะได้พบคนที่ต้องการซื้อหุ้น แน่นอนว่า เรื่องนี้ยังคงมีให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะกล้าเข้าสู่ตลาดหุ้น แต่ในทางกลับกัน พวกเขากลับรู้สึกปลอดภัยกว่าหากมีใบรับรองและลงนามโดยทนายความหรือหน่วยงานอื่นที่ได้รับมอบหมาย นี่คือตลาดรองที่เรากล่าวถึงข้างต้น ซึ่งเป็นตลาดที่เกิดขึ้นหลังจากที่ตลาดปิดระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษากิจกรรมเชิงพาณิชย์

อย่างไรก็ตาม ตลาดรองมีข้อเสียหลักๆ นั่นคือ ไม่มีราคาที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ หมายความว่าขณะที่คุณกำลังขายหุ้นที่ 50 ดอลลาร์สหรัฐ อีกคนอาจขายได้ที่ 70 ดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ข้อแตกต่างที่สำคัญอีกอย่างคือ เมื่อทำการซื้อขายในตลาดหุ้น คุณไม่จำเป็นต้องรู้ว่าบุคคลอื่นเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมหรือไม่ อาจเป็นบริษัทประกันระดับพันล้านก็ได้ ซึ่งคุณไม่มีทางรู้ และไม่สามารถรับประกันตัวตนของผู้ใช้ได้ ตลาดหุ้นทำให้คุณสามารถหาผู้ซื้อและผู้ขายสำหรับทุกอย่างที่คุณต้องการได้

เช่นเดียวกันนี้ เพื่อให้ผู้คนมีโอกาสเทรดภายในตลาดหุ้นมากขึ้น คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กจึงถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มของโบรกเกอร์หุ้นที่ตัดสินใจตอบสนองความต้องการนอกตลาดหุ้นที่ 68 Wall Street และลงนามในข้อตกลง Buttonwood 75 ปีต่อมา (ประมาณปี พ. ศ. 2406) จึงได้รับการเรียกชื่ออย่างเป็นทางการว่า New York Stock Exchange หรือ NYSE

ตลาดหุ้นหลักของโลกมีอะไรบ้าง?

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (New York Stock Exchange)

ก่อนหน้านี้สหรัฐมีตลาดหุ้นระดับภูมิภาคที่ทำหน้าที่ดูแลธุรกรรมในแต่ละส่วนของประเทศ ยกตัวอย่างเช่น ในซานฟรานซิสโกมีตลาดหุ้นแปซิฟิก (Pacific Stock Exchange) ซึ่งดำเนินการโดยโบรกเกอร์เพื่อช่วยเหลือนักลงทุนในท้องถิ่นที่ต้องการชำระบัญชีหรือซื้อหุ้นของสินทรัพย์ แต่ปัจจุบันตลาดหุ้นประจำภูมิภาคเหล่านี้ได้ปิดตังลง และแทนด้วยเครือข่ายไมโครชิปและอิเล็กทรอนิกส์แทน สิ่งเหล่านั้นทำให้ทุกวันนี้เราสามารถเทรดกับคนอื่นทั่วโลก

ตลาดหุ้น 15 อันดับ ที่ดีที่สุดอ้างอิงตามตามมูลค่าตลาดของหลักทรัพย์จดทะเบียน ได้แก่

  1. New York Stock Exchange ตั้งอยู่ในเมืองนิวยอร์ค
  2. NASDAQ (National Association of Securities Dealers Automated Quotations) คือตลาดหุ้นอิเล็กทรอนิกส์ที่ตั้งอยู่ในเมืองนิวยอร์กเช่นกัน
  3. London Stock Exchange ตั้งอยู่ในเมืองลอนดอน สหราชอาณาจักร
  4. Tokyo Stock Exchange รู้จักกันทั่วโลกในชื่อตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
  5. Shanghai Stock Exchange ตั้งอยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
  6. Hong Kong Stock Exchange ตั้งอยู่ในประเทศฮ่องกง
  7. Euronext ตั้งอยู่ทั่วยุโรป (ฝรั่งเศส โปรตุเกส เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม)
  8. Shenzhen Stock Exchange ตั้งอยู่ในเมืองเสินเจิ้น ประเทศจีน
  9. TMX Group: ตลาดหุ้นแคนาดา ตั้งอยู่ในเมืองโตรอนโต้ ประเทศแคนาดา
  10. Deutsche Börse: ตลาดหุ้นเยอรมัน ตั้งอยู่ในเมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี
  11. Bombay Stock Exchange ตั้งอยู่ในเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย
  12. National Stock Exchange of India ตั้งอยู่ในเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย
  13. SIX Swiss Exchange: ตลาดหุ้นซูริคตั้งอยู่ในเมืองซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
  14. Australian Securities Exchange ตั้งอยู่ในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
  15. Korea Stock Exchange: ตลาดหุ้นของเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้

อะไรคือความแตกต่างระหว่างตลาดหุ้นดั้งเดิม และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

เมื่อพูดถึงตลาดหุ้นแบบดั้งเดิมจะหมายถึงตลาดที่การซื้อขายสินทรัพย์หรือหุ้นต่างๆ ส่วน "ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์" หมายถึงการแลกเปลี่ยนที่สินค้าเกษตรและโลหะ เช่น ถั่วเหลือง โคนม น้ำมัน แร่เงิน กาแฟ ทองคำ ข้าวโพด สิ่งเหล่านี้จะมีการซื้อระหว่างหลายฝ่ายเพื่อเปลี่ยนเป็นการลงทุนเชิงพาณิชย์ หรือเพื่อการเทรดในตลาดต่างๆ

สรุป

ใบทความนี้ เป้าหมายหลักของเราคือการอธิบายว่าตลาดหุ้นหมายถึงอะไร เนื่องจากเราสามารถลงทุนและสร้างรายได้จากตลาดหุ้น ดังนั้นหากคุณคือหนึ่งในนั้น คุณสามารถเริ่มต้นการลงทุนกับ Libertex ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เพียงแค่สร้างบัญชีทดลองฟรี Libertex นำเสนอโอกาสให้คุณเทรด CFD (สัญญาซื้อขายส่วนต่าง) ไม่เพียงแต่บนหลักทรัพย์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงเงินดิจิตอลและสินค้าโภคภัณฑ์ด้วย หากคุณยังรู้สึกไม่ปลอดภัย เราขอแนะนำให้คุณศึกษาบทเรียนฟรี ซึ่งคุณจะได้เรียนรู้เทคนิคที่ดีที่สุดเพื่อเริ่มต้นเทรดให้เร็วที่สุดด้วยเงินจริง เริ่มต้นวันนี้!

ทำไมถึงต้องเทรดกับ Libertex?

  • เข้าใช้งานบัญชีเดโมแบบไม่มีค่าใช่จ่าย
  • การช่วยเหลือทางเทคนิค 5 วันต่อสัปดาห์, 24 ชั่วโมงต่อวัน
  • เลเวอเรจสูงสุด 1:500
  • ทำงานบนแพลตฟอร์มได้บนทุกอุปกรณ์: Libertex และ Metatrader 4 และ 5
  • ไม่มีค่าคอมมิชชั่นสำหรับพื้นที่ละตินอเมริกา
ย้อนกลับ

สัมผัสกับความน่าตื่นเต้นของการเทรด!

ลงทะเบียนเปิดบัญชีเดโมกับ Libertex และมาเรียนรู้วิธีการเทรด