ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา Bitcoin ได้กลายเป็นชื่อที่คุ้นเคย และเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีการซื้อขายมากที่สุดในตลาดการเงิน โดยได้เปลี่ยนจากสินทรัพย์ที่เคยมีความผันผวนสูง และราคาขึ้นลงรุนแรง ไปสู่การเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสถียรมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังจากการยอมรับจากสถาบันการเงินในวงกว้าง และมูลค่าตามราคาตลาดที่เพิ่มขึ้น หลังจากช่วง "ฤดูหนาวของคริปโต" ในปี 2021-2022 BTC ก็กลับมาพร้อมกับการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดหมี ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์ประหลาดใจกับความสม่ำเสมอ ระยะเวลา และความมั่นคง ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2022 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2024 ราคา Bitcoin ได้เพิ่มขึ้นจาก $21,000 เป็น $69,000 ด้วยการค่อยๆ ปรับขึ้น และใช้เวลาเกือบ 18 เดือน กว่าจะกลับไปถึงจุดสูงสุดก่อนปี 2022 ได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ได้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ในสัปดาห์แรกหลังจากพรรครีพับลิกันคว้าชัยชนะเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ราคา BTC ได้พุ่งขึ้นกว่า 30% ทะลุ $90,000 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญไปสู่เป้าหมาย $100,000 ที่หลายคนเคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แม้ว่าราคาได้ย่อตัวลงเล็กน้อย แต่ ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน Bitcoin ยังคงยืนอยู่ที่เหนือระดับ $90,000 อีกครั้ง และหลายคนเชื่อว่า ยังมีโอกาสอีกมากสำหรับการปรับตัวขึ้นต่อไป ดังนั้น เพื่อพยายามหาคำตอบที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องการทราบ บทความนี้จะวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญ ที่อาจส่งผลต่อทิศทางของ Bitcoin ในปี 2025
ไพ่ตายของทรัมป์
ไม่น่าแปลกใจที่ตลาดคริปโตได้ตอบสนองในเชิงบวกต่อผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ได้กล่าวไว้หลายครั้งว่า เขาจะทำให้สหรัฐฯ กลายเป็นศูนย์กลางคริปโตของโลก หลังการแต่งตั้งอีลอน มัสก์เป็นผู้นำการปรับปรุงประสิทธิภาพของรัฐบาล ราคา Dogecoin ก็เพิ่มขึ้นมหาศาลถึง 153% การขาดนโยบายคริปโตที่ชัดเจนจากพรรคเดโมแครต ทำให้ทรัมป์กลายเป็นผู้ท้าชิงที่เอื้อต่อคริปโตมากที่สุด นโยบายนี้ได้รับการตอกย้ำในปลายเดือนกันยายน เมื่อทรัมป์และลูกชายทั้งสามของเขาได้เปิดตัว World Liberty Financial ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มตลาดเงินที่เป็นการเงินแบบไม่รวมศูนย์ (DeFi) ของครอบครัวทรัมป์ และได้ทำให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยการแต่งตั้งอีลอน มัสก์ โดยรวมแล้ว พรรครีพับลิกันเป็นที่รู้จักในฐานะ พรรคที่สนับสนุนการสร้างกฎระเบียบให้น้อยที่สุด และการลดภาษี ซึ่งสอดคล้องกับจุดยืนของชุมชนคริปโตอยู่เสมอ และผลกระทบครั้งนี้ชัดเจนยิ่งขึ้น เนื่องจากพรรครีพับลิกันได้กวาดชัยชนะทั้งในทำเนียบขาว วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร
เรื่องเศรษฐกิจสำคัญที่สุด
แม้ว่าปฏิกิริยาของตลาดหลังการเลือกตั้งอาจดูเกินจริง แต่ก็มีปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาค ที่สนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นของ Bitcoin อย่างมีนัยสำคัญ ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง แม้จะได้รับผลกระทบระยะสั้นจากพายุเฮอริเคน อัตราเงินเฟ้อกลับมาใกล้ระดับเป้าหมายที่ 2% และธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ปรับนโยบายการเงินไปในทิศทางที่ผ่อนคลายมากขึ้น หลังการลดอัตราดอกเบี้ยลงสองเท่าที่ 50 bps ในเดือนกันยายน เฟดได้ปรับลดอีก 25 bps เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลงอยู่ที่ระดับ 4.50%-4.75% ตลาดต่างทราบดีถึงความสัมพันธ์ระหว่างอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง กับการเปลี่ยนแปลงที่ดียิ่งขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยง และสำหรับคริปโตซึ่งมีความเสี่ยงสูงมาก ผลกระทบนี้ยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น
ไม่ใช่แค่ Bitcoin ที่มีการเคลื่อนตัวเพิ่มขึ้นเท่านั้น ข้อมูลจาก SoSoValue ระบุว่า BTC ETF แบบสปอต มีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิเป็นบวกติดต่อกันถึงหกวัน โดยในวันที่ 13 พฤศจิกายน มีเงินไหลเข้า $510.11 ล้าน และด้วยการที่ตัวเลข CPI ของเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ผลกระทบของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด ดูเหมือนว่า จะมีการรับรู้ไปแล้ว ซึ่งเป็นการเปิดทางไปสู่การปรับลดอีก 25 bps ก่อนสิ้นปี ในสภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำที่ยืดเยื้อ พร้อมกับทัศนคติที่เป็นมิตรต่อสกุลเงินดิจิทัล จากทั้งรัฐบาลและธนาคารกลาง มันจึงไม่มีเหตุผลใด ที่จะหยุดการปรับตัวขึ้นของ Bitcoin ได้ และในช่วง Santa Claus Rally ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์ เราอาจได้เห็นการพุ่งขึ้นไปสู่แนวต้านสำคัญที่ $100,000
เทรด CFD ของ Bitcoin กับ Libertex
ด้วย Libertex คุณสามารถซื้อหรือขาย CFD ของสินทรัพย์ได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นฟอเร็กซ์ โลหะ และ ETF ไปจนถึงหุ้น ออปชัน และคริปโต Libertex ให้คุณเทรด CFD ของเหรียญที่สำคัญ เช่น Bitcoin และ Dogecoin รวมถึง Grayscale Bitcoin Trust ไม่ว่าโพซิชั่นของคุณจะเป็นซื้อหรือขาย ด้วยการใช้หรือไม่ใช้เลเวอเรจก็ตาม หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติม หรือสร้างบัญชีวันนี้ ให้ไปที่ www.libertex.org/signup
